มุกข์ลดา วรพรต เตรียมความพร้อม
ก่อนแข่งแบบมาราธอน 2 ชั่วโมง เป็นครังแรกที่ซูซูก้า
วันที่สองของทีมแข่ง A.P.Honda
Racing Thailand ณ สนาม Suzuka
Circuit ยังเป็นการเตรียมความพร้อมของรถแข่ง ของรุ่น Supersport
600cc. และรุ่น Asia Production 250cc. เพื่อนำไปให้กรรมการตรวจสภาพในช่วงบ่าย พร้อมกับชุดแข่งของนักแข่ง
ก่อนที่จะเริ่มลงสัมผัสแทร็คกับการซ้อมครั้งแรกในเช้าวันศุกร์
ในการประชุมของทีมก่อนเริ่มงานช่วงเช้า
คุณสมคิด ศรีสมยศ ผู้จัดการทีม บอกว่าวันนี้ มร.มาโกโตะ ทามาดะ สเปเชี่ยลโค้ชนักแข่งของทีมจะเดินทางมาถึงสนามในช่วงสายของวันนี้
จึงอยากให้นักแข่งของทีมทุกคนได้เข้าไปทักทายเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับโค้ช
ขณะที่
มร.คอนโดะ ที่ปรึกษาด้านเทคนิค ได้ย้ำให้ทีมช่างทราบถึงกำหนดเวลาของการตรวจสภาพรถแข่ง
และย้ำให้ช่างเขียนชื่อทีมพร้อมเบอร์รถแข่งเอาไว้บนวงล้อ
เพื่อป้องกันการสับสนเวลาที่ไปให้ทีมงาน DUNLOP เปลี่ยนยางให้
บรรยากาศของสนามวันนี้ส่วนใหญ่จึงไปอยู่กับรุ่น Asia
Dream Cup ซึ่งวันนี้เริ่มต้นกับการสอน Racing
School ให้กับนักแข่งที่จะลงแข่งขันในรูปแบบใหม่ Endurance
2 Hrs. หรือแข่งแบบมาราธอน 2 ชั่วโมง โดย 2
นักบิดเยาวชนไทย คือ มุกข์ลดา สารพืช กับ วรพรต เนียมสุคนธ์สกุล จับคู่กันลงชิงชัย
แต่ก็ยังไม่ได้วางไว้ว่าใครจะเป็นคนขี่ไม้หนึ้งไม้สอง คงต้องรอการประชุมในพรุ่งนี้เช้าก่อน
โดยการจัด Racing
School ให้กับนักแข่งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งแบบมาราธอน 2
ชั่วโมง ทางผู้จัดการแข่งขันและสนามแข่ง Suzuka ได้แบ่งการฝึกของนักแข่ง Asia Dream Cup ออกเป็น 3 เรซ แต่ละเรซจะใช้เวลาประมาณ 1
ชั่วโมง หลังจากการฝึกแต่ละเรซเทรนเนอร์หรือวิทยากรก็จะมาบอกและให้คำแนะนำกับนักแข่งแต่ละคน
เพื่อปรับปรุงในจุดที่ยังไม่ดีพอ
ซึ่งนักบิดสาวดาวรุ่งจากไทยแลนด์-มุกข์ลดา
สารพืช สามารถทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุด 2:45 นาที ขณะที่วรพรตคู่เมททำเวลาอยู่ที่ 2:50 นาที แถมยังไปพลาดล้มที่โค้งเอสในการลงฝึกเรซที่3 ด้วย
อย่างไรก็ตามนักบิดสาวดาวรุ่งไทยแลนด์ได้เผยถึงความรู้สึกในการฝึกว่า
การขับขี่ทำเวลาเร็วที่สุดไม่ใช่เป้าหมาย
แต่เป็นการขับขี่ให้ความเร็วต่อรอบคงที่มากกว่า
การฝึกครั้งนี้เหมือนเราได้เรียนรู้การขับขี่ให้เวลาคงที่ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมากกับสนามที่มีความยาวมากๆแบบซูซูก้า
เซอร์กิต หลังจากที่ทราบว่าจะต้องมาแข่งแบบมาราธอน 2 ชั่วโมง
ก็ได้ศึกษาวิธีการขี่จากเทปบันทึกการแข่งขันของสนามแห่งนี้ในปีก่อนๆ
ในการฝึกก็พยายามที่จะขี่คนเดียวใช้ตัวเองเป็นเป้ามากกว่าที่จะไล่ตามนักแข่งคนอื่นๆ
และฝึกขี่ให้ความเร็วคงที่มากที่สุด
คิดว่าการแข่งขันแบบนี้เป็นการฝึกสมาธิของเราด้วย
และการที่ได้มีเวลาอยู่ในสนามนานๆ
ก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้เราได้มีเวลาศึกษาไลน์และจังหวะการขับขี่ในจุดสำคัญๆ
เป้าหมายของการแข่งหากติด 1 ใน 3 ก็ถือว่าโอ.เค.แล้ว
เพราะที่นี้เป็นโฮมเรซของนักแข่งญี่ปุ่น
และไม่หวั่นที่ได้จับคู่กับวรพรต
เพราะนั่นก็หมายถึงเรายอมแพ้ตั้งแต่แรก
ก็มีการคุยกันถึงเรื่องร่องไลน์การขี่จะทำอย่างไรให้ดีมากกว่าที่จะไปเน้นเรื่องความเร็ว
ด้านวรพรตคู่เมทซึ่งเป็นนักแข่งที่ค่อนข้างพูดน้อยก็เปิดเผยถึงความรู้สึกในการลงแข่งแบบมาราธอนครั้งนี้ว่า
ตอนรู้ว่าจะต้องแข่งแบบมาราธอนก็ยังรู้สึกเฉยๆ
แต่พอมาเห็นสนามแล้วมันตื่นเต้นมาก
อีกทั้งตอนลงฝึกขี่นั้นก็มีความรู้สึกว่ามันขี่ยาก
เพราะเป็นสนามที่ความเร็วในโค้งสูง แทบจะไม่ต้องยกคันเร่งมาก
ซึ่งยังไม่ค่อยชินกับสไตล์การขี่แบบนี้ พอช่วงการฝึกเรซที่3 กำลังสนุกแต่ไปพลาดล้มที่โค้งเอสเสียก่อน
ก็ตั้งใจจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ
เราคงต้องเฝ้าติดตามผลงานของ
2 ดาวรุ่งไทยในเกมบิดมาราธอน 2 ชั่วโมง ที่จะแข่งขันกันในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ที่ 5
มิถุนายนนี้ ฝากถึงพี่น้องชาวไทยอย่าลืมเชียร์นักแข่งไทยชิงความเป็นหนึ่งของเอเชียกันนะครับ
สามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดทาง FOX SPORT3 และความเคลื่อนไหวของทีม A.P.Honda Racing Thailand ได้ทาง www.aphonda.co.th และ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand.

